ข่าวสารและข้อมูลเชิงลึก

การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในญี่ปุ่นโดยใช้คำค้นหาที่ถูกต้อง

ความสำคัญของคำค้นหา

บริษัทระดับโลกต้องการหาตลาดที่เหมาะสมเพื่อการขยายธุรกิจในญี่ปุ่น โดยการปรับเปลี่ยนคำค้นหาให้เหมาะกับท้องถิ่นถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพในการมุ่งไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ และและทำให้การแสดงผลในเครื่องมือค้นหาอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งการปรับเปลี่ยนคำค้นหาให้เหมาะกับท้องถิ่นนั้นจะทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าญี่ปุ่นได้มากขึ้น แม้แต่การเลือกคำค้นหาที่ถูกต้องก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน ในการสร้างพื้นฐานสำหรับกลยุทธ์การตลาดที่ใช้เนื้อหา รวมถึงการสร้างเนื้อหาใหม่ในอนาคตเพื่อสร้างความน่าสนใจและเชื่อมโยงกับเป้าหมายของธุรกิจ

คำค้นหาในญี่ปุ่นมักจะมีปริมาณการค้นหาที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวอักษรที่ใช้ ตัวอย่างเช่น คำว่า “ราคา” สามารถเขียนได้ด้วยตัวอักษรคันจิหลายแบบ เช่น 価格 (คาคาคุ) หรือ 値段 (เนดาน) และในรูปแบบคาตะคะนะตรงตัว คือ プライス (พึไรซึ) แม้ว่าความหมายจะเหมือนกัน แต่การแปลแต่ละคำจะมีผลต่อปริมาณการค้นหาที่แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นการพิจารณาเลือกใช้ตัวอักษรและอักษรย่อภาษาญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมในการค้นหาจึงมีผลต่อประสิทธิภาพของธุรกิจในเครื่องมือค้นหา

มี 4 ขั้นตอนที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกคำค้นหาที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ โดยแนวคิดหลักของการปรับเปลี่ยนคำค้นหาให้เข้ากับท้องถิ่นคือการเลือกคำค้นหาที่เกี่ยวข้องมากที่สุดและมีจำนวนการค้นหาในแต่ละเดือนในญี่ปุ่นที่เหมาะสม

ขั้นตอนการสร้างคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพ

1. ทำการค้นคว้าคำค้นหาที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

การทำการค้นคว้าคำค้นหานั้นมีประโยชน์หลายอย่างต่อแคมเปญการตลาดดิจิทัลและนี่คือ 5 เหตุผลที่ทำไมต้องทำการค้นคว้าเกี่ยวกับคำค้นหา

  • คำค้นหาต่างๆช่วยให้คุณรู้จักแบรนด์และธุรกิจของคุณได้มากขึ้นว่าคุณขายสินค้าหรือบริการอะไร อีกทั้งการระบุคำค้นหาต่างๆจะช่วยให้คุณเข้าใจธุรกิจของคุณเองอีกด้วย
  • การค้นคว้าเกี่ยวกับคำค้นหาต่างๆจะช่วยให้ได้รับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับอันดับตำแหน่งคำค้นหาของคุณ คำค้นหาที่ถูกใช้งานบ่อย คำค้นหาที่คู่แข่งใช้ และตำแหน่งที่เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหา
  • การค้นคว้าเกี่ยวกับคำค้นหาจะช่วยให้คุณทราบว่าผู้คนกำลังค้นหาอะไรบ้าง ซึ่งอาจแตกต่างจากสิ่งที่คุณคิดเอาเอง
  • เครื่องมือค้นหาสามารถจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้ก็ต่อเมื่อพวกเขารู้จักธุรกิจของคุณ เช่น Google สามารถจัดอันดับให้คุณได้โดยการมุ่งเป้าไปที่คำค้นหาบนหน้าเว็บไซต์ต่างๆ
  • การระบุคำค้นหาที่จะนำมาใช้ในบล็อกและการสื่อสารสามารถช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้

การค้นคว้าคำค้นหาในภาษาญี่ปุ่นนั้นต่างจากการแปลคำศัพท์จากภาษาอังกฤษไปเป็นภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากคำค้นหาในภาษาญี่ปุ่นจะต้องพิจารณาถึงพลวัตของภาษาด้วย นอกจากนี้กลยุทธ์การค้นหาที่ใช้ภาษาอังกฤษอาจจะมีความแตกต่างในประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน ดังนั้น การค้นคว้าเกี่ยวกับคำค้นหาที่ใช้บ่อยและมีความเป็นธรรมชาติในภาษาญี่ปุ่นที่มีปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์สูง เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อจะดึงดูดลูกค้าที่เหมาะสมมาให้กับธุรกิจได้

การใช้เครื่องมือเพื่อทำการค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยโปรแกรม Keyword Planner ที่มีคุณภาพจาก Google สามารถช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มของคำค้นหาในญี่ปุ่นและช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์ของคุณได้มากขึ้น เมื่อทำการค้นคว้าเกี่ยวกับคำค้นหาในญี่ปุ่น แนะนำให้เพิ่มคำค้นหาที่ต้องการลงในหน้า Organic Keywords เพื่อให้ได้คำที่ได้รับการค้นหามากที่สุด 10 อันดับแรก โดยควรพิจารณาใช้คำค้นหาที่มีการค้นหาในแต่ละเดือนในปริมาณที่เหมาะสม มีการแข่งขันและเสนอราคาในระดับกลางถึงต่ำเพื่อให้โฆษณาของคุณปรากฏบนส่วนของหัวข้อการค้นหา นอกจากนั้นแล้วควรใช้คำค้นหาเพิ่มเติมจากคำค้นหาหลักเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น

2. เลือกคำค้นหาที่ถูกต้อง

การรู้ว่าจะเลือกคำค้นหาแต่ละคำอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายการตลาดและเป้าหมายของแคมเปญนั้น มีความสำคัญ ซึ่งการเลือกคำค้นหาที่เหมาะสมสำหรับแคมเปญในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประโยชน์สำหรับนักการตลาดและธุรกิจอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว มีวัตถุประสงค์ในการค้นหาอยู่ 3 ประเภทดังนี้

กำหนดวัตถุประสงค์ในการค้นหาคำสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจเลือกคำเหล่านั้นนั้นมาเป็นคำค้นหาหลัก เนื่องจากการเลือกคำค้นหาที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปตามวัตถุประสงค์ของแคมเปญการตลาด และยังช่วยให้เข้าใจเนื้อหาที่เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการค้นหาของลูกค้าอีกด้วย

3. ขยายขอบเขตของคำค้นหาที่มีอยู่เดิม

ขยายคำค้นหาในแคมเปญโฆษณาในหน้าค้นหาเพื่อเพิ่มการเข้าถึง และ/หรือเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ ซึ่งจะช่วยให้ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าที่มีแนวโน้มสนใจสามารถเจอโฆษณาได้ง่ายขึ้น โดยใช้ฟีเจอร์ของ Google Ads เพื่อขยายการเข้าถึงคำค้นหาของคุณด้วยการใช้ตัวเลือกการจับคู่คำ (Broad-match), การเสนอราคาในการประมูลโฆษณา (Smart Bidding), และการใช้โฆษณาที่ปรับเปลี่ยนคำค้นหาได้ (Responsive Search Ads) ผสมผสานกันไป

Google Ads ใช้ Ad-Rank เพื่อกำหนดตำแหน่งโฆษณาในแคมเปญ ดังนั้น การขยายการเข้าถึงคำค้นหาเพื่อเพิ่ม Ad-Rank จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการแข่งขันกับคู่แข่ง

ค่า Ad-Rank คำนวณโดยการนำต้นทุนต่อคลิก (cost-per-click; CPC) ที่ประมูล มาคูณกับคะแนนคุณภาพของโฆษณา (Quality Score) ซึ่งคะแนนคุณภาพของโฆษณาที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยเพิ่มค่า Ad-Rank ให้สูงขึ้นตาม ทำให้สามารถลดต้นทุนต่อคลิกที่ประมูลได้ ทั้งยังเป็นการประหยัดงบประมาณไปในตัวด้วย ซึ่งการที่จะทำให้คะแนนคุณภาพของโฆษณาดีขึ้นนั้น เราจะต้องปรับปรุงอัตราการคลิกต่อการมองเห็น (Click-Through Rate; CTR), ประสบการณ์ในหน้า Landing Page, และความเกี่ยวข้องของโฆษณากับคำค้นหาให้ดีขึ้น

4. เพิ่มคุณภาพให้กับคำค้นหาของคุณ

การตรวจสอบรูปแบบคำค้นหาของแคมเปญเป็นประจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสังเกตคำค้นหาที่มักจะถูกนำใช้ในภาษาญี่ปุ่น รวมถึงประสิทธิภาพของคำเหล่านั้น ใช้ Google Keyword Planner เพื่อประเมินคำค้นหาที่คุณเลือก จากนั้นเลือกคำค้นหาที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณ

สิ่งที่ต้องพิจารณาอีกอย่างหนึ่งคือการเพิ่มรูปแบบคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับแคมเปญการตลาดโดยการใช้คำค้นหาเชิงลบ ซึ่งขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณละเว้นคำค้นหาทั่วไปออกจากแคมเปญ และเน้นไปที่คำค้นหาที่สำคัญที่มีผลต่อกลุ่มลูกค้าของคุณแทน ฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคมเปญที่มีวัตถุประสงค์เป็น “ผู้ที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการ”

ความท้าทายในการเข้าถึงกลุ่มผู้ที่มีศักยภาพที่จะกลายเป็นลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น

คำค้นหาทั่วไปอาจมีจำนวนการค้นหารายเดือนมหาศาล และคู่แข่งก็มีแนวโน้มที่จะใช้คำค้นหาเหล่านั้นเหมือนกัน ดังนั้นการแข่งขันเพื่อตำแหน่ง Ad-rank จึงมีความท้าทายอย่างมาก แทนที่จะพึ่งพาการค้นหาแบบธรรมดาเท่านั้น ให้ใช้คำค้นหาแบบจ่ายเงิน (paid keywords) ด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มอันดับด้วยการเลือกคำค้นหาที่เหมาะสมจากการประมูลเพื่อให้ได้จำนวนคลิก จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ และอัตราการเปลี่ยนเป็นยอดขายให้มากที่สุด ซึ่งการใช้คำค้นหาแบบทั่วไปและแบบจ่ายค่าโฆษณาร่วมกันนั้น จะช่วยปรับปรุงการเข้าชมเว็บไซต์ให้เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และยังช่วยเพิ่มตำแหน่งในการแสดงโฆษณาได้อีกด้วย

เครื่องมือค้นหาจะทำให้เนื้อหาของคุณกับคำค้นหาที่เลือกไว้ปรากฏอยู่ด้านบนสุดเมื่อมีผู้คนกำลังค้นหาข้อมูล และจะมีการคิดค่าธรรมเนียมต่อคลิก ดังนั้นให้เล็งหาเป้าหมายที่เหมาะสมโดยการโฆษณาด้วยคำค้นหาภาษาญี่ปุ่นที่ถูกต้อง จะช่วยทำให้เนื้อหาของคุณโดดเด่นจากเนื้อหาอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน

การเรียงลำดับคำและคำสรรพนามในภาษาญี่ปุ่นแตกต่างจากภาษาอังกฤษ ทำให้การแปลคำค้นหาเพื่อเข้ากันกับวัตถุประสงค์ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในท้องถิ่นเป็นไปอย่างซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่าการแปลตรงตัวอาจจะดูน่าสนใจ แต่การแปลผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างถูกต้องและไม่เข้าใจในเนื้อหาได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การพิจารณาใช้พันธมิตรท้องถิ่นที่เข้าใจตลาดญี่ปุ่นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเลือกคำค้นหาที่เหมาะสมต่อกลุ่มเป้าหมายในตลาดนั้นได้

Oval
Oval
ติดต่อเรา

เปิดตัวแคมเปญของคุณในญี่ปุ่นและเอเชีย-แปซิฟิกได้แล้วตอนนี้

มาลองพูดคุยกัน