ข่าวสารและข้อมูลเชิงลึก

ความสั่นสะเทือนของการสัมมนาออนไลน์และการทำงานทางไกลในประเทศญี่ปุ่น

โรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงแนวทางการใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คนทุกมุมโลก เศรษฐกิจตกต่ำ รูปแบบการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป และวิถีการทำงานได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับมาตรการควบคุมการระบาดทั่วโลก ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น รัฐบาลได้นำมาตรการที่เข้มงวดมาใช้เพื่อควบคุมโรคระบาด ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคมการบังคับให้สวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะ การเลื่อนกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มจำนวนมากออกไป รวมไปถึงการจัดงานโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียวด้วย

การทำงานทางไกลถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการต่อสู้กับไวรัสโควิด เนื่องจากเป็นการจำกัดการเคลื่อนไหวของบุคคลจึงเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสในผู้คนที่ต้องเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่สาธารณะได้ ในสถานการณ์นี้ อินเทอร์เน็ตได้เข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เนื่องจากพนักงานได้ทำงานและประชุมร่วมกันผ่านซอฟต์แวร์ต่างๆ รวมถึงแอปปลิเคชันการประชุมทางวิดีโอ เช่น Zoom และ Google Meet รวมทั้งเครื่องมือสื่อสารธุรกิจอื่นๆ เช่น Slack, Microsoft Teams, ChatWork และที่ขาดไม่ได้คืออีเมลนั่นเอง การประชุมทางวิดีโอนั้นเข้ามาแทนที่การประชุมในห้องประชุมแบบตัวต่อตัว โดยที่พนักงานมีการใช้ซอฟต์แวร์ออนไลน์ที่เชื่อมต่อทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ตหรือคลาวด์แทนการใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในที่ทำงานปกติ ซึ่งการทำงานทางไกลได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นทางเลือกที่ใช้แทนการเข้าไปทำงานที่สำนักงานได้เป็นอย่างดี และเป็นการตอบสนองต่อ “วิถีชีวิตรูปแบบใหม่”

 

การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบจาก Godzilla Effect

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดที่มีผลต่อวัฒนธรรมการทำงานทางไกลในประเทศญี่ปุ่นคือการยกเลิกกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก ทั้งที่คิดว่าจะมีเพียงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกีฬาเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่กลายเป็นว่ากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจก็ได้ถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไปเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการประชุม งานเลี้ยงกลางวัน และงานสัมมนา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมการทำงานในสำนักงานแบบดั้งเดิมที่ผู้คนสามารถสร้างเครือข่าย พูดคุยเกี่ยวกับแนวคิด และเรียนรู้ทักษะใหม่ๆได้

จึงไม่น่าแปลกใจที่ความต้องการในการจัดกิจกรรมออนไลน์ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมาในช่วงนี้ โดยเฉพาะการประชุมออนไลน์ที่ผ่านเว็บบราวเซอร์หรือแอปพลิเคชันก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากความจำเป็นในการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การบริโภคเนื้อหาดิจิทัลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกันโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนได้ตั้งชื่อเรียกการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า “Godzilla Effect” โดยใช้ชื่อจากตัวละครกิ้งก่ายักษ์เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น.

รายงานของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Nielsen ในเดือนมิถุนายน ปี 2020 พบว่าชาวญี่ปุ่นใช้เวลาอ่านข่าวออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 78% ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ 20% ของผู้คนในตลาดญี่ปุ่นก็ใช้เวลาดูวิดีโอออนไลน์หรือสตรีมมิ่งมากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน การตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของเนื้อหาดิจิทัลทำให้บริษัทต่างๆต้องปรับตัวโดยการใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักในการเผยแพร่แคมเปญโฆษณาและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยบริษัทเหล่านี้เพียงแค่โฆษณาไปในที่ที่ตลาดเป้าหมายของพวกเขาสามารถเห็นได้ ซึ่งนั่นก็คือช่องทางออนไลน์นั่นเอง อย่างที่ได้กล่าวไว้ ตลาดญี่ปุ่นกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปสู่พื้นที่ดิจิทัล และบริษัทต่างๆ กำลังพยายามพากันกรูเข้าไปในตลาดนี้ ดังนั้นการจัดเสวนาออนไลน์ในญี่ปุ่นจึงเป็นคำตอบที่สำคัญต่อเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม ณ เวลานี้

 

ความเคลื่อนไหวของวงการสัมมนาออนไลน์ จากการจัดสัมมนาแบบเดิมไปสู่การจัดสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่น

หนึ่งในวิธีที่บริษัทใช้เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลานี้คือการจัดสัมมนาออนไลน์ ซึ่งจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดโรคระบาด COVID-19 นั้น การสัมมนาออนไลน์ได้กลายมาเป็นเครื่องมือหลักที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น โดยการใช้งานนี้ได้เปิดโอกาสและเส้นทางใหม่ให้กับบริษัทระดับโลก ในการติดต่อสื่อสารกับกลุ่มผู้ชมญี่ปุ่นผ่านช่องทางดิจิทัลใหม่ๆ อีกทั้งการสัมมนาออนไลน์ยังเป็นวิธีการสำคัญ ที่บริษัทต่างๆจะสามารถทำแคมเปญเพื่อสร้างโอกาสในการขายในตลาดญี่ปุ่นได้

ในปัจจุบัน การสัมมนาออนไลน์ได้กลายเป็นรูปแบบปกติที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายไปแล้ว โดยการสัมมนาแบบตัวต่อตัวถูกแทนที่ด้วยการสัมมนาเสมือนจริงทางออนไลน์ ซึ่งจากรายงานปี 2020 ของ ClickMeeting แพลตฟอร์มการประชุมทางไกล พบว่าการจัดการสัมมนาออนไลน์บนแพลตฟอร์มนี้เติบโตขึ้นถึง 500% โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาถึงเกือบ 3,000,000 คน ด้วยข้อมูลเหล่านี้ยิ่งเน้นย้ำให้แบรนด์จำเป็นต้องคิดนอกกรอบ และไปให้ไกลกว่าการจัดโครงสร้างสัมมนาในรูปแบบเดิม

ด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบากในปัจจุบัน ทำให้นักการตลาดมากมายต่างแย่งชิงและมองหาเส้นทางใหม่ในการติดต่อกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการจัดสัมมนาออนไลน์ของญี่ปุ่นสามารถช่วยให้คุณสร้างค่าให้กับลูกค้าที่มีศักยภาพของคุณได้ ด้วยการใช้เทคนิคการสร้างสารสนเทศผ่านการสัมมนาออนไลน์ จะทำให้แบรนด์ต่างๆสามารถเผยแพร่หัวข้อเฉพาะกลุ่ม ผ่านแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย ยกตัวอย่างเช่น บริษัทผู้ให้บริการโซลูชั่นทางด้านเทคโนโลยีสามารถจัดการสัมมนาออนไลน์เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และมาตรการป้องกันการทุจริต (ซึ่งเกิดมากขึ้นพร้อมๆกันในช่วงสถานการณ์วิกฤตปัจจุบัน) ให้กับธุรกิจที่กำลังมองหาทางออกเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญของบริษัท

การสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นยังสร้างประโยชน์เพิ่มเติมให้แบรนด์ของคุณได้อีกด้วย โดยที่คุณสามารถกลายเป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือในกลุ่มลูกค้าเฉพาะของคุณ หรือสามารถเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญให้กับคนที่สนใจเรื่องราวเหล่านั้นได้ หากคุณสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและสามารถมีผลกระทบเชิงบวกต่อผู้ที่รับชมได้ เช่น เนื้อหาที่ช่วยเพิ่มยอดขาย หรือเนื้อหาที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ก็จะทำให้แบรนด์ของคุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย และด้วยธรรมชาติของการสื่อสารระหว่างกันในสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่น จะทำให้คุณมีโอกาสรับคำถามจากผู้เข้าร่วมสัมมนาได้อย่างสะดวก ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาก็จะมองว่าคุณเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในหัวข้อนั้นๆ และเมื่อพวกเขาคิดถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ที่คุณให้บริการอีกครั้ง พวกเขาจะมุ่งไปที่บริษัทของคุณโดยตรงทันที

ในประเทศญี่ปุ่น การสัมมนาออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์ญี่ปุ่นหลายแบรนด์กำลังเริ่มใช้การสัมมนาออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง โดยปรับเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมไปเป็นการสร้างภูมิทัศน์ทางดิจิทัลใหม่ ที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมทางออนไลน์มากขึ้น ความนิยมของการสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่นั้น กำลังเข้ามาแทนที่การสัมมนาในญี่ปุ่นในรูปแบบเดิมที่เคยใช้ในการจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งโดยปกติจะมีการจัดสัมมนาเหล่านี้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น และไม่เพียงแค่ในแวดวงธุรกิจเท่านั้นที่ใช้การสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นกันมากขึ้น แม้แต่ในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาต่างๆ ก็ได้เปลี่ยนและหันมาจัดกิจกรรมออนไลน์กันมากขึ้น หรือแม้แต่ครูผู้สอนเองก็ยังต้องหันมาใช้การเรียนการสอนแบบออนไลน์ ในขณะเดียวกันการประชุม การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และการประชุมทางวิชาการก็เปลี่ยนเป็นกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์เช่นกัน

การสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับตลาดเป้าหมาย เนื่องจากสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ได้ และสามารถดำเนินการได้จากเกือบทุกที่ ทั้งยังช่วยลดปัญหาเรื่องความแตกต่างทางกายภาพที่เป็นอุปสรรคต่อโครงสร้างการสัมมนาแบบเดิมได้อีกด้วย การสัมมนาออนไลน์ยังช่วยให้แบรนด์และนักการตลาดสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มผู้ชมที่กระจัดกระจายกันได้เป็นเวลานานๆ เนื่องจากลักษณะของการสัมมนาออนไลน์นั้นจะถูกจัดขึ้นบนระบบคลาวด์ จึงทำให้ผู้ที่สนใจในหัวข้อของคุณสามารถเข้าถึงและเข้าร่วมได้โดยง่าย ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเทคโนโลยีในประเทศญี่ปุ่นของเราแห่งหนึ่ง อาจจัดสัมมนาแบบตัวต่อตัวในห้องประชุมส่วนตัวใจกลางกรุงโตเกียว โดยมีกลุ่มเป้าหมายเพียง 30 คนก่อนที่จะมีการเกิดโรคระบาดขึ้น ในขณะที่การสัมมนาออนไลน์จะช่วยให้บริษัทนี้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ไม่เพียงแค่ในศูนย์กลางธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น โตเกียว โอซาก้า หรือฟุกุโอกะเท่านั้น แต่ยังสามารถเชื่อมโยงกับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทั่วทั้งญี่ปุ่น รวมถึงในภูมิภาคห่างไกลที่ต้องการโซลูชั่นในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ การสัมมนาออนไลน์ยังช่วยปลดข้อจำกัดทางสถานที่ที่ธุรกิจต้องเผชิญอยู่ได้ เพราะการสัมมนาออนไลน์นั้นแทบจะไร้ขีดจำกัดด้านจำนวนผู้เข้าร่วม ซึ่งไม่ว่าจะเป็น 30 คน, 300 คน หรือแม้แต่ 3,000 คนก็สามารถเข้าร่วมได้ ดังนั้นแล้ว การสัมมนาออนไลน์เช่นนี้นั้น จะช่วยให้แบรนด์ที่มีเป้าหมายเป็นตลาดญี่ปุ่นสามารถเพิ่มการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมได้มากที่สุด

การสัมมนาออนไลน์เป็นวิธีที่คุ้มค่าทางต้นทุน ที่ถึงแม้ว่าจะต้องลงทุนเวลาและทรัพยากรบ้าง แต่ก็ยังคุ้มค่ามากกว่าการโฆษณาโดยตรง หรือการทำแคมเปญที่จ่ายตามจำนวนคลิก โดยที่เครื่องมือจำนวนมากที่จำเป็นสำหรับการจัดสัมมนาออนไลน์นั้นไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นแบบโอเพ่นซอร์ส หรือราคาไม่แพง และพร้อมใช้งานได้เลย ตัวอย่างเช่น Open Broadcasting Software (OBS) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สตรีมมิ่งบนเดสก์ท็อปฟรี ที่คุณสามารถสร้างการสัมมนาออนไลน์ได้หลังจากการกำหนดค่าบางอย่างลงไป ด้วยซอฟต์แวร์เหล่านี้ พร้อมกับทีมผู้บริหาร และทีมสนับสนุนที่มุ่งมั่นในการดูแล จะช่วยให้การสัมมนาออนไลน์ประสบความสำเร็จได้ และถึงแม้ว่าการสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นจะถูกขนานนามว่าเป็นทางเลือกที่ถูกและง่ายกว่าการสัมมนาแบบเดิม แต่ลูกค้าชาวญี่ปุ่นกลับได้รับประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นจากการผลิตงานที่มีคุณภาพสูง และมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในเข้าร่วมการสัมมนาออนไลน์

ในเชิงวัฒนธรรม การสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการตอบสนองของสังคมญี่ปุ่นต่อวิดีโอถ่ายทอดสด โดยที่ก่อนหน้านี้เสียงที่เกิดขึ้นในครัวเรือนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างมาก การมีเด็ก สัตว์ สิ่งรบกวน และปัญหาเทคนิคต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับการถ่ายทอดสดอะไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม ทุกว้นนี้เสียงรบกวนดังกล่าวกลับกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ชมมีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้นำเสนอ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบัน

สื่อกระแสหลักของญี่ปุ่นโดยเฉพาะทางโทรทัศน์เป็นตัวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ต่อการสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่น เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน รายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นได้ถ่ายทอดการสัมภาษณ์แขกรับเชิญในบ้านหรือในพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขาเพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของสังคมในปัจจุบัน โดยที่ก่อนหน้านี้นั้น การทำเช่นนี้จะถูกพิจารณาว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ แต่การเปลี่ยนไปสู่การสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นได้ทำให้แนวโน้มนี้กลายเป็นเรื่องปกติ ทั้งทำให้บรรยากาศการสัมมนาออนไลน์มีบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย

เครื่องมือสำคัญอีกตัวที่ทำให้การสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นคือซอฟต์แวร์การประชุมผ่านวิดีโอ Zoom ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มตัวเลือกสำหรับการสัมมนาออนไลน์ Zoom ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืน โดยตลอดทั้งปี ปริมาณการค้นหาคำว่า “Zoom” เพิ่มขึ้น 32 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เมื่อยังไม่มีมาตรการกักกัน การค้นหาคำว่า “Zoom” จะมีปริมาณความสนใจประมาณ 100-200,000 ครั้งต่อเดือน แต่ในเดือนเมษายนของปี 2020 มีการค้นหา “Zoom” ทั้งหมดสูงถึง 8.1 ล้านครั้ง และกลับมาคงที่ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีการค้นหา 2.9 ล้านครั้ง นอกจากนี้หนังสือเกี่ยวกับ Zoom ก็วางอยู่เต็มชั้นวางของร้านหนังสือใหญ่ๆในญี่ปุ่นเกือบทุกแห่ง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการใช้งาน คำแนะนำ และการอ้างอิง เพื่อช่วยเพิ่มทักษะในการใช้งานแพลตฟอร์มนี้ ทั้งนี้ ตัวเลขและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหล่านี้เพียงแค่ชี้ให้เห็นว่าการสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นจะเป็นบรรทัดฐานในอนาคตอันใกล้ รวมทั้งเป็นเพียงการเน้นย้ำความสำคัญของการสัมมนาออนไลน์ที่เป็นช่องทางสำคัญสำหรับตลาดญี่ปุ่นในการติดต่อกับแบรนด์ต่างๆ การเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต และการมีส่วนร่วมกับบริษัทผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมาย

 

ข้อสรุป

การสัมมนาออนไลน์จะยังคงอยู่ต่อไปในอนาคต และตลาดญี่ปุ่นเป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์สำหรับแบรนด์ที่พร้อมจะลงทุนในแพลตฟอร์มการตลาดที่ (ค่อนข้าง) ใหม่นี้ ซึ่งการสัมมนาออนไลน์ของญี่ปุ่นนั้นเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในเรื่องต้นทุน โดยไม่จำกัดขอบเขตทางภูมิศาสตร์ และสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ชมได้อย่างสูงสุด นอกจากนั้นแล้ว การสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นเป็นวิธีเดียวในปัจจุบันที่ผู้บริโภคจะได้รับความรู้อันมีค่า ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นช่องทางที่ให้แบรนด์ได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสนใจของผู้บริโภคอีกด้วย และยังสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชมในระดับบุคคลได้ จึงคาดหมายได้ว่าการสัมมนาออนไลน์ในญี่ปุ่นจะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญแม้ว่าจะผ่านช่วงโรคระบาดไปแล้วก็ตาม

 

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวความเร็จในญี่ปุ่นได้ที่นี่

Awareness-focus Programmatic Display Campaign

Programmatic Display Lead Generation Case Study

Lead Generation with Content Syndication Campaign

Oval
Oval
ติดต่อเรา

เปิดตัวแคมเปญของคุณในญี่ปุ่นและเอเชีย-แปซิฟิกได้แล้วตอนนี้

มาลองพูดคุยกัน