ข่าวสารและข้อมูลเชิงลึก

มุ่งเป้าไปยังตลาดญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้ Google Responsive Search Ads

Google จะจำกัดบริการโฆษณาแบบข้อความค้นหาตั้งแต่ วันที่ 30 มิถุนายน 2022. เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม นักการตลาดสามารถใช้โฆษณาแบบดัดแปลงอื่นๆเพื่อโปรโมตธุรกิจในญี่ปุ่นได้

 
จากข้อมูลของ Google โฆษณาที่ใช้ข้อความเพิ่มเติมจะยังคงให้บริการต่อไป และนักการตลาดยังสามารถดูรายงานประสิทธิภาพ หยุดชั่วคราว และดำเนินการต่อโฆษณาดังกล่าวได้ แต่นักการตลาดจะไม่สามารถสร้างหรือแก้ไขโฆษณาบนเครื่องมือค้นหาได้อีกต่อไป เพราะพวกเขาจะสามารถพัฒนาหรือแก้ไขโฆษณาบนเครื่องมือค้นหาที่ปรับแต่งได้เท่านั้น กล่าวคือ Google แนะนำให้เปลี่ยนจากโฆษณาที่ใช้ข้อความเพิ่มเติมไปใช้โฆษณาบนเครื่องมือค้นหาที่ปรับแต่งได้นั่นเอง

นักการตลาดเข้าใจถึงความสำคัญของโฆษณา Google Ads ในการช่วยธุรกิจให้เด่นขึ้นในผลการค้นหา และช่วยให้นักการตลาดสามารถเลือกกลุ่มผู้บริโภคที่เหมาะสมและมีโอกาสเป็นลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น มาลองเรียนรู้วิธีการใช้โฆษณาการค้นหาที่สามารถปรับแต่งได้เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่ดีกว่าในญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย

การปรับปรุงคำค้นหาภาษาญี่ปุ่นสำหรับโฆษณาแบบข้อความ

นักการตลาดสามารถใช้โฆษณาบนการค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทเพื่อสร้างธุรกิจที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ โดยใส่คำค้นหาภาษาญี่ปุ่นที่ต้องการในเนื้อหาแคมเปญ รวมถึงพิจารณาเพิ่มคำค้นหาอื่นๆในภาษาญี่ปุ่นที่ต้องการเพื่อเลือกที่ตั้งเฉพาะ สถานที่ประจำ หรือจุดสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้((เรียนรู้วิธีเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพสูงโดยใช้คำค้นหาภาษาญี่ปุ่นที่เหมาะสมได้ที่นี่)).

โปรดจำไว้ว่าต้องเขียนเนื้อหาในลักษณะของภาษาญี่ปุ่นและเข้าใจจุดประสงค์ในการค้นหาของตลาดด้วย เพราะหากเกิดความไม่ตรงกันในความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายจะส่งผลให้โฆษณามีประสิทธิผลต่ำ ซึ่งทำให้ธุรกิจใช้งบประมาณในการโฆษณาเพิ่มขึ้น แต่กลับได้ลูกค้าที่มีความสนใจน้อยลง

การพิจารณาควรรวมถึงการเน้นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์และบริการของธุรกิจ เนื่องจากเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนหรือคล้ายกันจะลดโอกาสในการเน้นเรื่องที่น่าสนใจของธุรกิจลง โดยนักการตลาดสามารถสร้างสื่อโฆษณาได้หลากหลายเพื่อดูว่าการผสมผสานของสื่อใดบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ ซึ่งข้อความโฆษณาที่ดีจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับ Landing Page ของธุรกิจ และมีคำค้นหาต่างๆที่ใช้งานบ่อยบนเว็บไซต์รวมอยู่ในนั้นเพื่อเน้นจุดขายที่ไม่เหมือนใครของบริษัท

การใช้ Google Responsive Search Ads สำหรับตลาดญี่ปุ่น

ในขณะที่แนวโน้มของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนั้น การเชื่อมต่อลูกค้ากับธุรกิจด้วยการแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยโฆษณาที่ปรับตามการค้นหา (responsive search ads) นั้นเป็นการผสมผสานนวัตกรรมของนักการตลาดกับเครื่องมือค้นหาที่พัฒนาโดย Google เพื่อที่จะนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากขึ้นสำหรับกลุ่มเป้าหมายในประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ Google อนุญาตให้นักการตลาดสามารถใส่หัวข้อโฆษณา (Headline) ได้สูงสุดถึง 15 หัวข้อ และในแต่ละหัวข้อสามารถใส่คำอธิบายได้ถึง 4 แบบ โดยแต่ละหัวข้อโฆษณานั้นจะจำกัดอยู่ที่ 30 ตัวอักษร และคำอธิบายจะต้องไม่เกิน 90 ตัวอักษร

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบบการเขียนอยู่ 3 ระบบ (ฮิระงะนะ, คาตะคานะ, และคันจิ) โดยแต่ละระบบมีตัวอักษรของตัวเองในการสร้างสื่อโฆษณา (Assets) เป็นภาษาญี่ปุ่นนั้น ตัวอักษรคาตาคานะทั้งแบบกว้างเต็มตัวและแบบกว้างครึ่งตัว (half-width) นับเป็น 2 ตัวอักษร ในขณะที่อักษรและตัวเลขที่มีความกว้างครึ่งตัว (half-width alphanumeric) จะนับเป็น 1 ตัวอักษร.

ยิ่งมีสื่อโฆษณามากเท่าไร โอกาสที่จะเพิ่มสมรรถนะและจับคู่กับคำค้นหาในภาษาญี่ปุ่นก็สูงขึ้นด้วยเท่านั้น

 
Google จะเลือกหัวข้อโฆษณาสูงสุด 3 หัวข้อ และคำอธิบายสูงสุด 2 แบบที่จะแสดงบนเครื่องมือค้นหา นอกจากนี้ Google จะทำการแนะนำโฆษณาที่มีความเหมาะสมและเกี่ยวข้องมากที่สุดให้กับคำค้นหาต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการเลือกตัวโฆษณา (asset) ที่สร้างอัตราการคลิกเข้าชม และยอดขายต่อโฆษณา (conversion rate) สูงสุดในรายงานสื่อโฆษณาอีกด้วย ซึ่งถือว่าเครื่องมือที่ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มสมรรถนะของตัวโฆษณาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้น

ฟีเจอร์อีกตัวที่นักการตลาดสามารถใช้ในโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามการค้นหาได้คือการปักตัวโฆษณา โดยนักการตลาดสามารถปักหมุดหัวข้อหรือคำอธิบายโฆษณาเพื่อเน้นคำค้นหาและข้อความที่ต้องการสื่อสาร ซึ่ง Google จะแสดงตัวโฆษณาที่ปักไว้ตามการปรับเปลี่ยนโฆษณาแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตาม นักการตลาดควรเข้าใจถึงผลข้างเคียงของการปักตัวโฆษณา เนื่องจากการปักตัวโฆษณาจะทำให้โฆษณาอื่นๆไม่สามารถปรากฏในการค้นหาได้ ซึ่งจะลดโอกาสในการจับคู่กับคำค้นหาของลูกค้าเป้าหมายลง

การเขียนคำโฆษณาที่ดีจะเป็นประโยชน์ต่อ Responsive Search Ads

แทนที่จะใช้บริการโฆษณาด้วยข้อความธรรมดาเช่นเดิม การใช้โฆษณาที่ปรับเปลี่ยนคำค้นหาได้นั้นเป็นทางเลือกที่ดีในการบรรลุผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตามข้อมูลจาก Google Global Internal Data ปี 2021 พบว่าโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนคำค้นหาได้นั้นสามารถเพิ่มอัตรายอดขายต่อโฆษณาได้สูงขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบกับโฆษณาที่ใช้ข้อความและภาพโดยมีค่าใช้จ่ายต่อโฆษณาที่พอๆกัน แต่ผลลัพธ์นี้ขึ้นอยู่กับข้อความโฆษณาและกลยุทธ์ ดังนั้นการให้คำโฆษณาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

การเขียนโฆษณาให้น่าสนใจจะต้องเน้นไปที่ส่วนประกอบที่สำคัญของสินค้าหรือบริการ นักการตลาดต้องเผชิญกับความท้าทายหลายอย่างในการสร้างข้อความโฆษณาที่ดึงดูดในประเทศญี่ปุ่น จริงๆ แล้ว การมีความรู้ภาษาอย่างลึกซึ้งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างข้อความโฆษณาให้ประสบความสำเร็จ. นอกจากนี้ การทดสอบรูปแบบโฆษณาโดยการแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานออกเป็นสองกลุ่มก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปรับปรุงแคมเปญโฆษณาอย่างต่อเนื่องในประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

การเขียนข้อความโฆษณาเป็นภาษาอังกฤษนั้นท้าทายอยู่แล้ว แต่ในภาษาญี่ปุ่นนั้นมีความซับซ้อนและระดับการใช้ภาษาที่หลากหลายมากขึ้น นักการตลาดจึงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับรายละเอียดเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับความหมายในคำพูดหรือการใช้ภาษาญี่ปุ่นเพื่อเลือกใช้คำค้นหาที่เหมาะสม นอกจากนี้ นักการตลาดควรทราบว่ามีคำศัพท์ที่ใช้ได้เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ดังนั้นการค้นคว้าและศึกษาเกี่ยวกับคำค้นหาสำหรับโฆษณาเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเขียนข้อความโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้าในญี่ปุ่น

การสร้างข้อความโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับตลาดในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นรากฐานสำคัญอย่างยิ่งในการประสบความสำเร็จจากแคมเปญโฆษณาให้ดีขึ้น

 
ดังนั้น KKBC ในฐานะที่เป็นบริษัทตัวแทนแบบ B2B ในญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าของแบรนด์และธุรกิจของบริษัทนานาชาติในตลาดญี่ปุ่นโดยการให้คำค้นหาที่เหมาะสมเพื่อเขียนโฆษณาที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าญี่ปุ่น โดยทีมงานของ KKBC มีประสบการณ์ในการเขียนโฆษณาภาษาญี่ปุ่นและสามารถให้บริการสองภาษาที่ช่วยให้เราทำงานได้ดีที่สุดในส่วนที่เป็นสิ่งสำคัญต่อความต้องการของลูกค้า

Oval
Oval
ติดต่อเรา

เปิดตัวแคมเปญของคุณในญี่ปุ่นและเอเชีย-แปซิฟิกได้แล้วตอนนี้

มาลองพูดคุยกัน